|
แก้วตาหวานใจ |
แก้วตาหวานใจ เรื่องย่อแก้วตาหวานใจ
“แก้วตาหวานใจ” เป็นละครโทรทัศน์แนว โรแมนติก คอมเมดี้
ผลิตโดยบริษัท เวฟ ทีวี จำกัด
บทประพันธ์โดย ดวงตะวัน
บทโทรทัศน์โดย ศิริรัตน์ สุขสามัคคี, จิรมน เณวิกาน, สร้างสรรค์ สันติมณีรัตน์
กำกับการแสดงโดย ชุดาภา จันทเขตต์
นำแสดงโดย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง,ด.ญ.นิชัญญา สุดประเสริฐ
ออกอากาศทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
แก้วตาหวานใจ
แก้วตาหวานใจ
แก้วตาหวานใจ เป็น ละครโทรทัศน์เป็นบทประพันธ์ของ ดวงตะวัน สร้างเป็นละครครั้งแรกเมื่อปี 2546 เป็นละครโทรทัศน์ใน สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 นำแสดงโดย ภาณุ สุวรรณโณ, อารยา เอ ฮาร์เก็ต ต่อมาได้นำมาสร้างใหม่อีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2557 เป็นละครโทรทัศน์ทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 นำแสดงโดย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง,ด.ญ.นิชัญญา สุดประเสริฐ
รายชื่อนักแสดงแก้วตาหวานใจ
ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์
ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง
ด.ญ. นิชัญญา สุดประเสริฐ
อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล
ดารณีนุช โพธิปิติ
มาวิน ทวีผล
ณิชชาพัณณ์ ชุณหะวงศ์วสุ
คนัสนันท์ นักตะเฆ่
พิมพ์ทอง วชิราคม
มัจฉา โมซิมันน์
คาลิยา นิฮุต
วิรากานต์ เสณีตันติกุล
เรื่องย่อแก้วตาหวานใจ
เมื่อชายหนุ่มที่เป็น “กุลสตรี” กับ หญิงสาว “มาดแมน” บังเอิญมาร่วมชายคาเดียวกัน โดยเหตุผลหลักของการโคจรมาพบกันของทั้งคู่ก็คือ เด็กหญิง “มดตะนอย” ตัวน้อยๆที่จะกัดหัวใจของเขาและเธอให้แสบๆคันๆกันเลยทีเดียว
ในงานแข่งขันกีฬาสีของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ท่ามกลางเสียงเชียร์ดังกระหึ่มของกองเชียร์สีฟ้า หนูน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มห้าคนตั้งหน้าตั้งตาเต้นนำเชียร์อย่างสุดกำลัง และในท่ามกลางหมู่กองเชียร์แม่ๆป้าๆ มีชายหนุ่มแปลกปลอมสองคนแต่งตัวด้วยชุดสีฟ้ายืนโดดเด่นสะดุดตาอยู่ พวกเขาคือ อนลและอนิล วโรดม สองหนุ่มที่มาให้กำลังใจ “เด็กหญิงมดตะนอย” หลานสาวคนเดียวที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเชียร์ลีดเดอร์ อนล หรือ ลุงเสือ พี่ชายสวมแว่นตาดำปกปิดหน้าตา แต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตกางเกงสแล็กส์ ค่อนข้างระวังพฤติกรรมของตน ต่างกับ อนิล หรือ ลุงช้าง ผู้เป็นน้องชายที่แต่งตัวด้วยเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ สะพายกระเป๋าเป้สีชมพูแปร๋น คอยตะโกนร้องเพลงเชียร์ให้กำลังใจมดตะนอยเสียงดัง ทุกครั้งที่พักเบรกลุงช้างก็จะเข้าไปซับหน้า ซับเหงื่อ ป้อนขนมหลานสาวสุดสวาทคนนี้ทันที สร้างความฉงนปนสนใจแก่คนที่พบเห็น จนเอาไปซุบซิบกันว่า คุณพ่อของมดตะนอยควงแฟนหนุ่มมาดูแลลูกสาว!?! ทั้งนี้ก็เพราะไม่มีใครเคยเห็นแม่ของมดตะนอยเลย …แม้แต่ตัวเด็กหญิงมดตะนอยเอง…
เมื่อ “หวันยิหวา” หรือ “ไข่หวาน” ลูกสาวคนเล็กหัวแก้วหัวแหวนของ “นายแม่ดาวเรือง” เจ้าของกิจการเดินรถทัวร์สายอีสาน ตัดสินใจลงสมัครประกวดซุปเปอร์โมเดลที่บริษัทนำเข้ารถหรูแห่งหนึ่งจัดขึ้นตามแรงยุของเพื่อนรัก “นิกกี้” ลูกสาวเศรษฐีครอบครัวใหญ่สุดมั่น ผู้รักอิสระและสนุกกับการทำงานในบริษัทนี้ นิกกี้จึงอยากดันเพื่อนเข้ามาทำงานด้วยกันไข่หวานฟังดูแล้วก็สนใจเพราะเธอชอบด้านเครื่องยนต์อยู่แล้ว และหวังว่าหากเธอชนะการประกวด จะได้เงินรางวัล และมีโอกาสไปดูงานที่โรงงานผลิตรถยนต์ต่างประเทศที่เธอใฝ่ฝัน
ไข่หวานทะเลาะกับนายแม่อย่างแรงเรื่องที่จะขอไปประกวดซุปเปอร์โมเดล เพราะนายแม่ดูถูกว่าอุตส่าห์เรียนจบมาสูงๆจะไปประกวด “พริตตี้รถยนต์” ทำไม ไข่หวานอธิบายอย่างไรนายแม่ก็ไม่เข้าใจซักที ว่าหากชนะการประกวดนั้นเธอจะได้เป็น Brand Ambassador ที่ใช้ทั้งสมองและหน้าตาสวยงามในการประชาสัมพันธ์ธุรกิจรถยนต์ นายแม่ดาวเรืองประกาศก้องไม่ยอมให้ไข่หวานไปประกวดเด็ดขาด หากไปจะตัดเบี้ยเลี้ยงทั้งหมด แต่ไข่หวานก็ดื้อมาก อยากเอาชนะนายแม่ อีกทั้งยังมีอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่เธอต้องไปกรุงเทพคือ เธอได้รับภารกิจโลกแตกจากพี่ชาย “พี่หมึก” หรือ “มุรธา” ที่บังเอิญพบว่าตัวเองอาจจะมีลูกกับผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อหกปีที่แล้ว!!! แสดงว่าเธอก็อาจจะมีหลาน หลานที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาหรือรู้ว่ามีตัวตนอยู่ในโลกนี้ พระเจ้า…งานเข้าไอ้ไข่หวานอย่างจัง! ความลับนี้จะบอกให้นายแม่รู้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะนายแม่ขึ้นชื่อเรื่องหวงห่วงลูกชายสุดพลัง และก็หมายมั่นปั้นมือวางแผนให้ หมึก แต่งงานกับ อณิมา หรือ หนูเล็ก ลูกสาวของ อธิป ครองจินดา(วโรดม) เพื่อนของเธอด้วย
ไข่หวานกลุ้มใจมาก เพราะเธอต้องไปกรุงเทพจริงๆแต่ไม่มีเงินเลย หมึกเอาเงินเก็บส่วนตัวช่วยสมทบทุนน้องสาวส่วนหนึ่ง แต่หากไข่หวานต้องอยู่กรุงเทพนานไม่มีกำหนดเพื่อตามหาหลาน เงินจำนวนนั้นคงไม่มากพอจ่ายค่าที่พักตลอดไปแน่ๆ หนูเล็กซึ่งสนิทกับไข่หวานเช่นกันจึงเสนอให้ไข่หวานให้ไปพักกับญาติของเธอ โดยรับประกันความปลอดภัย 100% เพราะลุงช้างมีบ้านอยู่ชานเมือง อยู่กับหลานสาวเพียงหนึ่งคน และเขาใจดีมากๆๆๆๆ จากคำอธิบายของหนูเล็กทำให้ไข่หวานเห็นภาพคุณลุงแก่ๆวัยห้าสิบที่มีรอยยิ้มแสนใจดีทันที
ลุงช้างของเด็กหญิงมดตะนอย เป็นนักเขียนบทโทรทัศน์ซึ่งเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงานที่บ้าน บ้านซึ่งมีเพียงเขาและหลานสาววัยหกขวบอาศัยอยู่ โดยมีท่านเลขาฯรัฐมนตรี “ดร.อนล วโรดม” หรือ “ลุงเสือ” พี่ชายคนโตของอนิลมาเยี่ยมเยียนอยู่สม่ำเสมอหากเขาไม่ต้องเดินทางไปราชการที่ต่างประเทศ นอกจากนี้อนลและอนิลยังมีน้องสาวสุดรักสุดหวงอีกหนึ่งคนคือ กวาง “อนุช วโรดม”
ในอดีต กวางเติบโตมาดุจไข่ในหิน พ่อแม่รักและดูแลดั่งแก้วตา แต่เมื่อเธอเติบโตเป็นวัยรุ่น พ่อก็เลิกกับแม่ กวางรักพ่อมากจึงเข้าใจว่าพ่อทิ้งเธอไป พ่อไม่รักเธอแล้ว กอปรกับกวางเริ่มมีความรักครั้งแรกกับหมึก ทำให้เธอออกห่างจากครอบครัว ติดแฟนมากจนพลาดพลั้งตั้งท้องในวัยเรียน กวางชวนหมึกแต่งงานทั้งๆที่หมึกยังไม่พร้อมและยังไม่รู้ว่ากวางท้อง หมึกจึงปฏิเสธเธอไป กวางเสียใจมาก หลังจากเธอให้กำเนิดเด็กหญิงมดตะนอยแล้ว เธอก็บินไปอาศัยอยู่กับมารดาที่อเมริกา และไม่กลับมาเหลียวแลลูกสาวที่ทำให้ชีวิตวัยสาวของเธอพังยับลงในปีที่สามของการเรียนมหาวิทยาลัยอีกเลย กวางไม่แม้แต่จะบอกครอบครัวของเธอว่าพ่อของเด็กคือใคร เธอเลือกที่จะหนีความจริงและบาดแผลอันปวดร้าวไปพร้อมกับการทิ้งภาระให้กับพี่ชายคนรองเลี้ยงดูลูกสาวของเธอเพียงลำพัง
แขกประจำอีกคนของลุงช้างก็คือ ไฮโซสาวที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่วงการเพราะความอยากดัง “ภารวี เกียรติธำรง” หรือ “คุณอาพาราวี” ที่หนูน้อยมดตะนอยเรียกขาน ภารวีเป็นอดีตรุ่นน้องและเพื่อนบ้านเก่าของลุงช้าง เธอแอบชอบลุงช้างตั้งแต่สมัย ม.ปลาย ก่อนที่เธอจะไปเรียนต่อต่างประเทศ และลุงช้างก็ย้ายบ้านไปอยู่ชานเมือง ไฮโซสาวมักจะหาเรื่องแวะเวียนมาทำคะแนนกับลุงช้างเสมอๆ โดยเฉพาะหลังจากได้ข่าวว่าลุงช้างมีญาติสาวมาพักด้วย
ไข่หวานแทบช็อกเมื่อพบว่า “ลุงช้าง” ญาติของหนูเล็กที่ฝากฝังให้มาพักด้วยนั้นไม่ใช่ “คุณลุงแก่ๆวัยห้าสิบ” ดังภาพที่เธอจินตนาการไว้ แต่ลุงช้างกลับกลายเป็นหนุ่มหล่อ เข้ม ที่สำคัญแววตาคมกริบ วิบวับ ที่มองหล่อนก็ทำให้ใจมันหวั่นๆหวิวๆ ลุงช้างเองก็ตกใจไม่ต่างกันเมื่อพบหน้า“คุณยายไข่หวาน”ที่ตนเองจินตนาการถึงยายแก่ตกยากหอบหิ้วสังขารเข้าเมืองกรุงมาเพื่อตามหาลูกหลาน แต่ผู้หญิงตรงหน้าเขากลับกลายเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง มั่นใจในตัวเอง ทะมัดทะแมง แถมยังเก่งเรื่องเครื่องยนต์กลไกอีกด้วย บางครั้งเวลาลุงช้างเขียนบทไม่ทันก็ได้ไข่หวานนี่แหละช่วยเลี้ยงมดตะนอย ลุงช้างปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมีไข่หวานอยู่ในบ้านนั้นเป็นความรู้สึกที่ชุ่มชื่นหัวใจ…อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน อีกทั้ง มดตะนอยตัวน้อยก็ดูท่าว่าจะติดอาไข่หวานแจ แถมยังชอบสาธยายความสามารถพิเศษพิสดารของเขาให้เธอได้รับรู้อยู่เสมอๆ เช่น “ถ้าอาไข่หวานนอนไม่หลับให้ลุงช้างเกาหลังให้ก็ได้นะคะ ลุงช้างเกาหลังเก่งมากเลยค่ะ” หรือ “ลุงช้างเต้นควีโยมีเก่งที่สุดเลยค่ะอาไข่หวาน” และที่เด็ดสุดคือ “ลุงช้างแต่งเป็นเดอะลิตเติลเมอร์เมดซ้วยสวยค่ะอาไข่หวาน” โธ่เอ้ยยายมดตะนอย แล้วอย่างนี้อาไข่หวานจะคิดว่าลุงช้างเป็นคนอย่างไรกันล่ะเนี่ย!
ภารกิจโลกแตกที่พี่หมึกฝากฝังไข่หวานเริ่มต้นด้วยการตามหาตัว “อนุช วโรดม” หญิงสาวที่พี่ชายของเธอคิดว่ามีอาจลูกด้วยกันตามคำบอกเล่าของ “จามร” เพื่อนสนิทของมุรธา ตามรูปและที่อยู่ที่เจ้าตัวให้มา แต่ไข่หวานก็คว้าน้ำเหลวเมื่อพบว่าเจ้าของบ้านได้ย้ายบ้านไปนานหลายปีแล้ว ความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้เธอรู้สึกท้อ มีลุงช้างนี่แหละที่คอยให้กำลังใจ แถมยังทำกับข้าวอร่อยๆให้เธอฟื้นกำลังขึ้นมาตามหาพวกเขาอีกครั้ง ลุงช้างไม่เคยถามว่าเธอตามหาใคร ส่วนเธอเองก็ยังไม่พร้อมที่จะเล่าปมอันแสนเจ็บปวดของครอบครัวให้ใครฟัง ทั้งสองต่างรู้สึกอบอุ่นที่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน…แม้ไม่ต้องพูดจา…
ในที่สุดไข่หวานก็ได้พบกับเบาะแสสำคัญที่อาจทำให้เธอได้พบพี่สะใภ้กับหลานที่ตามหาอยู่ “สริดา รุจิอาภรณ์” คือเพื่อนสนิทของอนุช วโรดมสมัยที่ยังเรียนมหาวิทยาลัย แต่เมื่อไข่หวานได้พบพูดคุยกับสริดาเรื่องอนุชและลูก เธอต้องผิดหวังกลับมาอีกครา เมื่อสริดาไม่ได้ให้ความร่วมมือเปิดเผยข้อมูลใดๆแม้แต่น้อย เหตุเพราะความเคียดแค้นเพื่อนรัก
ในอดีต อนุชและสริดาเป็นเพื่อนรักกันมาก และต่างชอบรุ่นพี่ปีสี่คนเดียวกันนั่นคือ หมึก แต่หมึกกลับชอบอนุชมากกว่าสริดา ในงานปาร์ตี้คืนหนึ่งสริดาแกล้งดื่มเหล้าให้เมาเพื่อให้หมึกขับรถไปส่ง หมึกรับปากเธอด้วยความเป็นห่วงอย่างเพื่อน แต่เขาก็กลับไปส่งอนุชแทน หมึกลืมสริดาเสียสนิทจนกระทั่งตอนเช้า หมึกได้ข่าวว่าสริดาประสบอุบัติเหตุรถชนจากการเมาแล้วขับ สริดาถูกตัดขาทั้งสองข้างไปพร้อมๆกับการตัดความสัมพันธ์อย่างถาวรกับคนที่เธอเคยรักทั้งคู่ อนาคตของเธอดับวูบลงพร้อมกับความเจ็บปวดที่ก่อขึ้นเป็นกำแพงแห่งความขมขื่น เคียดแค้น มองโลกในแง่ร้าย และปิดกั้นตัวเองจากสังคมภายนอก ในเมื่อเธออยู่ในโลกนี้อย่างไม่มีความสุข อย่าหวังที่จะได้เห็นอนุชและหมึกมีความสุขด้วยกันเลย สริดาปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือทุกวิถีทางแก่ไข่หวาน ซ้ำยังไม่ยอมรับการติดต่อจากเธออีกเลย
ไข่หวานยังพยายามติดต่อเพื่อขอพบสริดาอยู่เรื่อยๆ พร้อมๆกับที่เธอก็ต้องเตรียมตัวเข้าประกวดซุปเปอร์โมเดลอย่างเต็มที่ การประกวดครั้งนี้ทำให้ไข่หวานพบกับ “สาริศ” เจ้านายของนิกกี้ ลูกชายคนโตของบริษัทนำเข้ารถยนต์หรูซ้ำยังเป็นพี่ชายแท้ๆของสริดา ซึ่งสาริศทำท่าว่าจะหลงเสน่ห์สาวอุบลฯเข้าอย่างจัง ถึงกับสะกดรอยตามไข่หวานมาหาถึงบ้านลุงช้างเพื่อตามจีบอย่างชัดเจน สร้างความไม่พอใจให้แก่ไข่หวานไม่น้อย แต่ต้องยอมติดต่อด้วยก็เพื่อหวังว่าสาริศจะช่วยพูดให้สริดาใจอ่อนยอมบอกความจริงกับเธอ ลุงช้างก็พลอยหงุดหงิดแกมงอนหน่อยๆเพราะหวงก้าง เอ้ย ห่วงความรู้สึกของเพื่อนร่วมบ้านคนนี้ ที่สำคัญนายสาริศนั่นเข้าออกบ้านเป็นว่าเล่น แถมยังมีข้อมูลใหม่ๆของคนที่ไข่หวานตามหามาหลอกล่อให้เธอออกไปกับเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
นิกกี้ได้เข้ามาทำงานเป็นเลขาของสาริศและคอยช่วยงานการประกวดทุกอย่าง แต่ก็ต้องเจออุปสรรคชิ้นใหญ่ คือ ตวงพร อาของสาริสและสริดา ตวงพรเป็นน้องสาวแท้ๆของพ่อสาริศที่บริหารงานแทนสาริศในช่วงที่พ่อเขาเพิ่งเสีย และเขายังเรียนอยู่เมืองนอก เมื่อสาริศกลับมา เขาก็อยากจะดึงอำนาจกลับสู่ตัวเอง แต่ตวงพรซึ่งอยากฮุบสมบัติไว้เพียงคนเดียวก็ไม่ยอม ตวงพรล๊อบบี้ผู้ถือหุ้นต่างๆนานาให้เลิกสนับสนุนการประกวด และใช้ภารวีซึ่งเป็นลูกสาวของเพื่อนรักให้คอยขัดขวางงานทุกอย่างของสาริศ ทำให้สาริศกับนิกกี้ต้องคอยช่วยกันแก้ปัญหาตลอดเวลา นิกกี้เห็นอกเห็นใจสาริศมากขึ้นจนกลายเป็นความรัก
ไข่หวานผ่านเข้ารอบสองของการประกวด สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมากให้กับภารวีและตวงพรเป็นอย่างมาก เจ้าตัวแสดงออกนอกหน้าว่าไม่ชอบนางสาวหวันยิหวาตั้งแต่แรกพบ เนื่องจากแอนตี้การเป็นนักเรียนนอกของไข่หวาน และให้เหตุผลว่า หล่อนไม่เหมาะกับการเป็นตัวแทนของสาวไทยสมัยใหม่ที่ยังต้องคงความเป็นไทยไว้ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ไข่หวาน คือคนๆเดียวกับญาติห่างๆที่มาพักกับลุงช้างชายหนุ่มที่เธอสนใจ ตามที่กาคาบข่าวอย่าง “น้องพลอย” สาววัยรุ่นบ้าดาราข้างบ้านลุงช้างคอยสอดสืบให้เธออยู่เนืองๆ น้องพลอยเข้าออกบ้านลุงช้างได้สะดวกเพราะลุงช้างจ้างให้มาช่วยดูแลมดตะนอยในวันที่เขาไม่อยู่บ้าน หรือปั่นงานไม่เสร็จ พลอยอยากทำงานพิเศษเก็บเงินไปเรียนแอ็คติ้ง ความฝันของพลอยคือการได้เป็นดาราเหมือนภารวี
ไข่หวานได้รับข่าวดีอีกเรื่องคือสาริศเล่าว่าอนุชเป็นน้องสาวแท้ๆของท่านเลขาฯดร.อนล วโรดม ไข่หวานดีใจมากและติดต่อไปยังดร.อนลทันที แต่เขาไปราชการที่อเมริกาแถมยังขอลาพักร้อนต่ออีกหนึ่งเดือน เธอตัดสินใจส่งอีเมลไปแต่ก็ไม่ได้รับอีเมลตอบกลับจากเขาเลย ด้านฝั่งลุงช้างก็ได้รับข่าวคราวบอกเล่าจากพี่ชายที่ไปเยี่ยมแม่และน้องสาวที่อเมริกาว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งติดต่อเขาเพื่อขอเจรจาเรื่องอนุชและลูก แต่ไม่มีทางเสียหรอกที่เขาจะยอมยกมดตะนอยผู้เป็นแก้วตาของเขาไปให้คนไม่มีความรับผิดชอบพรรค์นั้น!
ระยะเวลาที่ไข่หวานพักอยู่กับลุงช้างและมดตะนอยนั้น ความใกล้ชิดสนิทสนมของคนทั้งคู่ทำให้ความคิดของชายหนุ่มและหญิงสาวเปลี่ยนแปลงไป เขาตระหนักว่าชีวิตเขาและหลานสาวต่างก็ขาดบางสิ่งบางอย่างไป เขาพบว่าไข่หวานคือแบบอย่างของหญิงสาวที่เขาอยากให้มดตะนอยเป็นเมื่อเติบโตขึ้น คือเป็นผู้หญิงมั่นใจในตนเอง และคิดว่าความสวยที่แท้จริงของผู้หญิงไม่ใช่การแต่งหน้าทาปาก หากแต่เกิดจากสมองและความคิดที่สวยงามมากกว่า นอกจากนั้นไข่หวานยังช่วยแก้พฤติกรรมเลียนแบบอันแสนแก่แดดแก่ลม ที่มดตะนอยเคยได้รับจากภารวีและน้องพลอยนั้นหายไปเสียด้วย และที่สำคัญที่สุด…เขาอยากให้ไข่หวานมาเป็นหวานใจของเขาเหลือเกิน…
ไข่หวานเองก็ชักจะมีอาการใจสั่นกับผู้ชายท่าทางอบอุ่น ใจดี อีกทั้งแววตาเป็นประกายคู่นั้นมันชวนหลงใหลเสียนี่กระไร จากการปรึกษานิกกี้ นิกกี้ก็บอกให้ไข่หวานเช็คดูว่า เขาจะมีใจตรงกันกับเธอหรือเปล่า โดยการหว่านเสน่ห์ต่างๆนานา ลุงช้างรู้สึกแปลกๆกับพฤติกรรมก๋ากั่นเกินเหตุของไข่หวาน ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าไข่หวานมีแผนการยั่วเย้าเขาบางอย่าง เขารู้ดีแต่ที่ไม่กระโตกกระตากออกมา ก็เพราะว่าการที่มีไข่หวานมาวนเวียนใกล้ชิดมันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เรื่องอะไรอนิลจะพลาดโอกาสดีๆอย่างนี้
ก่อนการประกวดซุปเปอร์โมเดลรอบตัดสิน ไข่หวานออกไปทานข้าวนอกบ้านกับลุงช้างและมดตะนอย ตวงพรกับภารวีจ้างให้คนไปถ่ายรูปเพื่อสร้างข่าวว่าไข่หวานแอบมีครอบครัวอยู่แล้วก่อนเข้าประกวด “พิชิต” ลูกน้องคนสนิทของนายแม่ดาวเรืองบังเอิญเห็นเหตุการณ์พอดีจึงรายงานเรื่องนี้ให้นายแม่ทราบทันที เดือดร้อนถึงนายแม่ดาวเรืองจนทำให้นั่งไม่ติด โทรหามุรธาซึ่งกำลังทำธุระอยู่ที่กรุงเทพฯให้มาดูน้องว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ มุรธาและพิชิตมาหาไข่หวานที่บ้านลุงช้าง ลุงช้างต้อนรับพี่ชายที่บอกว่ามาเยี่ยมไข่หวานเป็นอย่างดีและเชิญให้พักด้วยกัน ไข่หวานจึงจำต้องยอมตกกระไดพลอยโจนซะงั้น มดตะนอยดีใจมากที่มีลุงหมึกมาพักด้วยกันและกลายเป็นเพื่อนเล่นแสนวิเศษของเด็กน้อยอีกคน มุรธาก็รู้สึกถูกชะตากับหลานลุงช้างคนนี้ตั้งแต่แรกเห็นซึ่งเขาไม่รู้เลยว่ามดตะนอยคือลูกสาวแท้ๆของเขานั่นเอง
ไข่หวานไม่ละความพยายามในการติดต่อขอพบสริดาอีกครั้ง ครั้งนี้เธอใช้ความจริงใจตามที่ลุงช้างแนะนำมา เธออธิบายความต้องการของพี่ชายเธอที่ต้องการรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นและขอให้สริดาช่วยให้เธอได้ติดต่อกับอนุชโดยตรง และด้วยความช่วยเหลือของสาริศอีกแรงที่เกลี้ยกล่อมพี่สาวให้ยอมละทิฐิและเห็นแก่เด็กตาดำๆ สริดาจึงรับปากว่าจะลองคุยกับอนุชให้ หลังจากไข่หวานกลับไปแล้ว สริดาจึงติดต่ออนิลและบอกเรื่องราวทั้งหมดที่เธอได้พบหญิงสาวที่มาตามหาอนุชและลูกให้เขาฟัง แถมยังนัดให้อนิลไปเจอหน้าคนที่จะมาพรากมดตะนอยไปจากเขาในวันการจัดงานประกวดซุปเปอร์โมเดลรอบสุดท้ายอีกด้วย
ลุงเสือส่งอีเมลมาหาลุงช้างอีกครั้ง เมื่อเขาได้รับอีเมลอีกฉบับจากหญิงสาวที่เรียกร้องสิทธิของความเป็นญาติฝ่ายพ่อของมดตะนอยขอพบและเจรจา คราวนี้อนุชที่เคยปฏิเสธการรับรู้เรื่องใดๆของเด็กหญิงมดตะนอยถึงกับเปรยขึ้นมากับพี่ชายว่า อย่าให้ใครเอาลูกเธอไปได้ ถึงเธอไม่พูดอย่างนั้นอนิลก็ไม่มีความคิดยกมดตะนอยให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น ทางด้านไข่หวานเองก็เริ่มท้อใจที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเพื่อไถ่โทษให้พี่ชายของเธอ วันนั้นเองเธอก็เผยความอ่อนแอของผู้หญิงคนหนึ่งให้ลุงช้างเห็น เธอโอบกอดเขาเพื่อขอกำลังใจ แต่ไข่หวานหารู้ไม่ว่าอีกฝ่ายกลับฉวยโอกาสเผยความรู้สึกผ่านการปลอบประโลมเธอ ไข่หวานได้โอกาสที่จะพิสูจน์ความรู้สึกของลุงช้างว่าใจจะตรงกับเธอหรือเปล่าตามที่นิกกี้บอกมา ไข่หวานตัดสินใจค่อยๆเคลื่อนหน้ามาหอมแก้มลุงช้าง แทนที่ลุงช้างจะผลักไส เขากลับจุมพิตปลอบตอบเธออย่างนิ่มนวล ไข่หวานรู้ในวินาทีนั้นเองว่า ลุงช้างก็มีใจตรงกับเธอ กรี๊ดดดด!
ในที่สุด สาริศกับนิกกี้ก็เอาชนะตวงพรจนสามารถจัดงานประกวดได้สำเร็จ ในวันประกวดรอบสุดท้ายของซุปเปอร์โมเดล ลุงช้างพามดตะนอยและลุงหมึกไปเชียร์ไข่หวานถึงขอบเวที ลุงช้างและไข่หวานดูมีความสุขมากเมื่อได้รับรู้ความรู้สึกในใจของกันและกัน ฝ่ายสาริศก็พาสริดามาดูการประกวดในครั้งนี้ หล่อนยอมออกจากบ้านก็เพื่อหวังจะชี้ตัวการให้อนิลรับทราบ ผลการประกวดปรากฏว่า นางสาวหวันยิหวา อัศวเรืองฤทธิ์ได้รับตำแหน่ง Brand Ambassador ของบริษัทนี้ สร้างความดีใจตื่นเต้นให้กับทุกคนโดยเฉพาะลุงช้าง ระหว่างรอรับไข่หวานกลับบ้าน หมึกก็บังเอิญเจอกับสริดาเพื่อนสนิทของอนุช เขาเปิดเผยตัวตนของเขาเพื่อขอคุยเรื่องหญิงสาวและลูกของเขา ทันใดนั้นลุงช้าง มดตะนอยและไข่หวานเดินมาสมทบพอดี สริดาได้โอกาสบอกอนิลว่าคนตรงหน้าเขานี่แหละที่ต้องการพรากมดตะนอยไปจากเขา สองคนพี่น้องนี่เองที่เป็นคนไร้ความรับผิดชอบ ลุงช้างรู้ความจริงทั้งหมดก็โกรธมาก พามดตะนอยกลับบ้านทันที!
สองพี่น้องหมึกและไข่หวานตามไปคุยกับลุงช้างที่บ้าน ความจริงที่เปิดเผยทำให้อนิลโกรธและเสียใจมาก ในขณะที่ไข่หวานก็พยายามจะอธิบายและขอโทษแทนพี่ชายตน เรื่องราวบานปลายจากการต่อว่าของอนิลในค่ำคืนนั้น ทำให้หมึกแอบลักพาตัวมดตะนอยไปในรุ่งสางของอีกวัน ยังไม่ทันที่ลุงช้างและไข่หวานออกตามหามดตะนอย อนุชก็โทรศัพท์มาหาอนิลในสายวันนั้นพอดิบพอดี อนุชร่ำไห้ทันทีที่ทราบเรื่องและบอกว่าตนจะกลับเมืองไทย พร้อมกันนั้นไข่หวานก็ได้รับโทรศัพท์จากนายแม่ดาวเรืองบอกว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว พี่หมึกของเธอพาเด็กหญิงตัวเล็กๆมาบอกว่าเป็นลูกสาวของเขา ให้ไข่หวานรีบกลับบ้านด่วน อนิลตัดสินใจเดินทางไปอุบลฯพร้อมไข่หวานทันที
นายแม่ดาวเรืองแทบจะลมจับเมื่อรู้ความจริงว่า ลูกชายของตนแอบไปมีหลานไว้เมื่อหลายปีก่อน แต่ด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูของมดตะนอยทำให้เธอยอมรับความจริงได้ภายในค่อนวัน นายแม่ดาวเรืองพามดตะนอยออกไปเที่ยวตลาด ซื้อเสื้อผ้า ซึ่งที่ตลาดนั่นเองมดตะนอยก็ร้องเรียก “น้าหนูเล็ก” ของเธอดังลั่น ทำให้ความจริงอีกเรื่องกระจ่างขึ้นมาว่า หนูเล็ก อณิมาเพื่อนสนิทของไข่หวานเป็นน้องสาวคนละแม่ของลุงช้างนั่นเอง!
เป็นญาติฝ่ายพ่อของมดตะนอยเรียกร้องสิทธิในตัวหลาน ทำให้หนูเล็กต้องรีบเคลียร์สถานการณ์ตรงหน้าบอกให้ลุงช้างกลับไปพักที่บ้านเธอก่อน อนิลได้พบพ่อ “อธิป” กับแม่เลี้ยง หนูเล็กเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างหมึกกับอนุชให้พ่อฟัง อนิลได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้วพ่อของเขาไม่ได้ทิ้งลูกๆไว้กับแม่ แต่พ่อคิดถึง “ใจลูก”เป็นหลักเพราะแม่เขาให้เหตุผลว่าลูกๆต้องการอยู่กับเธอ พ่อก็ยอมรับแต่โดยดีเพื่อความสุขของลูก ทั้งๆที่เขารักและอยากรับอนุชไปเลี้ยงใจจะขาด
เช้าวันใหม่อนิลขับรถไปอู่ดาวเรืองแต่เช้าเพื่อหวังจะขโมยมดตะนอยกลับมา แต่มดตะนอยออกไปวัดกับนายแม่ดาวเรือง ไข่หวานรักและอยากให้มดตะนอยอยู่กับพี่ชายเธอมากกว่าจึงเฉไฉไม่ยอมไปตามหาไข่หวานให้ลุงช้างง่ายๆ ศึกย่อมๆแย่งหลานตัวน้อยก็เกิดขึ้นระหว่างไข่หวานและอนิลที่ต่างอ้างสิทธิ์ในการดูแลหลาน ทั้งสองคนต่างเจ็บปวดที่ต้องทะเลาะกันเรื่องหลานจนคิดว่าความรักของทั้งคู่คงไม่มีทางเป็นจริงได้!
หนูเล็กต้องไกล่เกลี่ยให้ลุงหลานได้อยู่ด้วยกันตอนกลางวัน แต่กลางคืนต้องนำหลานมานอนบ้านย่าแทน มดตะนอยสับสนไปหมดจนล้มป่วยเพราะปรับตัวไม่ทัน การที่มดตะนอยล้มป่วยนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตจนทำให้ทั้งสองบ้านตัดสินใจนัดเจรจายุติปัญหาว่ามดตะนอยควรอยู่กับใครกันแน่? ระหว่างนั้นสาริศและอนุชก็ตามมาสมทบกับอนิล อนุชเริ่มลดทิฐิลงหลังจากได้ฟังเรื่องราวในอดีตจากปากของพ่อ และรับรู้ว่าพ่อรักเธอมากขนาดไหน
หนูเล็กต้องไกล่เกลี่ยให้ลุงหลานได้อยู่ด้วยกันตอนกลางวัน แต่กลางคืนต้องนำหลานมานอนบ้านย่าแทน มดตะนอยสับสนไปหมดจนล้มป่วยเพราะปรับตัวไม่ทัน การที่มดตะนอยล้มป่วยนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตจนทำให้ทั้งสองบ้านตัดสินใจนัดเจรจายุติปัญหาว่ามดตะนอยควรอยู่กับใครกันแน่? ระหว่างนั้นสาริศและอนุชก็ตามมาสมทบกับอนิล อนุชเริ่มลดทิฐิลงหลังจากได้ฟังเรื่องราวในอดีตจากปากของพ่อ และรับรู้ว่าพ่อรักเธอมากขนาดไหน
เช้าวันรุ่งขึ้นการเจรจาเริ่มต้นขึ้นระหว่างสองบ้านเพื่อหาข้อยุติ มุรธาพยายามปฏิบัติตัวดีต่ออนุชแต่กลับโดนเธอปฏิเสธอย่างไม่ไยดี นายแม่ดาวเรืองขอโทษอนุชและยอมรับผิดเรื่องมุรธาทุกประการ ดาวเรืองบอกว่าเธอเลี้ยงลูกไม่ดีเอง เธอคอยปกป้องลูกเกินไปจนลูกไม่กล้าตัดสินใจเอง อนุชแจ้งความต้องการว่าเธอจะเอามดตะนอยไปเลี้ยงที่ต่างประเทศ ไข่หวานไม่ยอมเพราะญาติฝั่งพ่อควรมีสิทธิ์เลี้ยงดูเช่นกัน อนิลทักท้วงว่ามดตะนอยไม่ได้รู้จักพ่อและแม่ของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือ ให้มดตะนอยอาศัยอยู่กับลุงช้างตามเดิม ส่วนนายแม่ดาวเรืองจะซื้อบ้านที่กรุงเทพฯให้มุรธาได้อาศัยอยู่ ระหว่างนี้ทั้งมุรธาและอนุชเองต้องพิสูจน์ตัวเองและค่อยๆให้ลูกได้เรียนรู้และปรับตัวในการใช้ชีวิตกับพ่อแม่ เย็นวันนั้นเมื่อทุกอย่างเคลียร์ลงตัว ลุงช้างและอนุชรับตัวมดตะนอยเดินทางกลับกรุงเทพฯด้วยกันทันที จากนั้นไม่นานมุรธาก็ย้ายไปอยู่บ้านที่กรุงเทพฯ เขากลายเป็นแขกประจำของบ้านลุงช้างไปอย่างรวดเร็ว นอกจากจะทำหน้าที่พ่อด้วยความรักและเต็มใจแล้ว มุรธายังพยายามเริ่มต้นกับอนุชอีกครั้ง และเขาก็ยังโชคดีที่ได้รับโอกาสใหม่จากอนุชเพื่อจะพิสูจน์ตัวเองและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ทางด้านสาริศก็สารภาพกับไข่หวานว่าเขาแอบชอบเธอ แต่ไข่หวานปฏิเสธเพราะมีคนอยู่ในใจแล้ว นิกกี้คอยปลอบใจสาริศตลอด จนเขาคิดว่าเขาน่าจะเริ่มต้นให้โอกาสตัวเองลองคบคนใหม่ได้เสียที คนที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเพียงแต่เขาไม่เคยเห็นความสำคัญนั่นคือ นิกกี้นั่นเอง
ในที่สุดมุรธาก็เอาชนะใจอนุชได้ มดตะนอยกลายเป็นเด็กสดใสที่มีความสุขที่สุดในโลก เพราะเธอมีพ่อแม่ครบสมบูรณ์เฝ้าคอยสั่งสอนให้เธอเติบโตไปในทางที่ถูกที่ควร มุรธาและอนุชจะย้ายไปสร้างครอบครัวด้วยกันที่อเมริกา เมื่อลุงช้างและไข่หวานรู้เรื่องก็แทบใจจะขาด
เพราะมดตะนอยเปรียบดัง “แก้วตา” อันเป็นที่รักยิ่งของเขาและเธอ แต่ลุงช้างจำต้องยอมรับความจริง เพราะคิดถึง “จิตใจของมดตะนอย” ซึ่งสำคัญที่สุด ไข่หวานสงสารและเห็นใจลุงช้างมากที่ต้องถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว เพราะเธอเองก็ต้องกลับไปทำงานเป็นวิศวกรคุมอู่รถทัวร์ให้นายแม่ดาวเรืองเช่นกัน ลุงช้างน้อยใจไข่หวานมากที่ทิ้งเขาไป จนเขากลายเป็นคนเศร้าซึม
และแล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อไข่หวานโทรตามลุงช้างให้ไปอุบลฯด่วน เขาเดินทางไปหาเธอด้วยความคิดถึง แล้วก็พบเซอร์ไพรส์ว่า มุรธา อนุชและมดตะนอยย้ายกลับมาสร้างครอบครัวที่อุบลฯ เพราะมุรธาได้คิดทบทวนอีกครั้งแล้วว่าเขาควรกลับมาสืบทอดกิจการเพราะเป็นลูกชายคนโต ส่วนอนุชก็อยากลืมบรรยากาศความเจ็บปวดที่อเมริกา มาอยู่ใกล้อธิปเพื่อทดแทนวันเวลาที่หายไปให้ผู้เป็นพ่อ ไข่หวานตัดสินใจชวนลุงช้างมาสร้างครอบครัวด้วยกันที่อุบลฯ…เสมือนขอผู้ชายแต่งงานกลายๆ ลุงช้างใช้เวลาคิดไม่นานเลยเพราะเขาอยากอยู่กับ “หวานใจ”ของเขา ลุงช้างให้คำสัญญากับไข่หวานว่า เขาและเธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นสมบูรณ์ และมี “แก้วตา” ดวงใจน้อยๆเป็นของตัวเองด้วยกัน…
..........จบบริบูรณ์.......